“หึหึ... คนดี สุภาพบุรุษงั้นเหรอ ผมเลิกทำตัวแบบนั้นมานานแล้ว ถ้าคุณจะโทษก็โทษพี่ชายของคุณเถอะ เพราะเขาแย่งผู้หญิงของชาวบ้าน แต่หมอนั่นก็ลงทุนน่าดูเลยนะที่กล้าส่งคุณมาให้ผมแก้ขัดเสียขนาดนี้ น่านับถือในความใจกว้างของพี่ชายแบบเขาเสียจริงๆ” แววตาของเขาไม่ได้บอกว่านับถือแต่เต็มไปด้วยความเย้ยหยัน
“คุณพูดเรื่องอะไรของคุณ พี่วุธไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราสองคนจะได้เจอกัน” ตรีชฎาขึ้นเสียงสูงเมื่อทนฟังต่อไม่ไหว
“อย่าทำเป็นใสซื่อดีกว่าน่าดา ผมรู้ตั้งแต่แรกแล้วล่ะว่าคุณมาที่นี่เพราะอะไร เลิกเล่นละครตบตากันได้แล้ว ผมไม่ใช่เด็กอายุสิบห้าที่จะไม่รู้นะว่าผู้หญิงพยายามอ่อยน่ะเป็นอย่างไร คุณมองผมอย่างกับเป็นอาหารจานโปรดตั้งแต่เราเจอกันครั้งแรกที่เมืองไทยแล้ว ผมว่าบางทีคุณกับพี่ชายของคุณอาจจะสุมหัวกันวางแผนแย่งแอนนี่ไปจากผม เพราะถ้าผมโสด คุณก็สบโอกาสที่จะตะครุบผมแบบเต็มๆ ผมอ่านเกมของคุณกับพี่ชายถูกใช่ไหมล่ะ” ตาที่หลุบลงมองเรือนร่างของเธอทำเอาตรีชฎารู้สึกร้อนๆ หนาวๆ
“มันไม่ใช่อย่างนั้นเลยนะคะแม็คซ์ คุณเข้าใจทุกอย่างผิด” หญิงสาวเถียงเสียงสั่น เธอเป็นคนรบเร้าอิสริยาภรณ์เพื่อจะมาพบเขาเองต่างหาก เขาคือนายแบบในดวงใจที่เธออุตส่าห์ลงทุนสั่งนิตยสารแฟชั่นทุกเล่มที่เขาถ่ายแบบมาจากต่างประเทศตลอดระยะเวลาเกือบสามปี ทุกอย่างไม่เกี่ยวกับศาสตราวุธ คนที่รู้เรื่องนี้มีแค่เธอกับอิสริยาภรณ์เท่านั้น
“อืม… จะบอกว่าความจริงคุณเสนอตัวเป็นสะพานเชื่อมสัมพันธไมตรีเองว่างั้นเถอะ ก็ดี... ทุกอย่างจะได้จบง่ายๆ เพราะผมก็ไม่ได้คิดพิศวาสบาดจิตอะไรคุณ แต่เห็นคุณพยายามทำทุกอย่างเพื่อเรียกร้องความสนใจจากผมแล้วก็อดอนาถใจไม่ได้” ตาสีฟ้าที่ดูจะเข้มมากขึ้นยามกวาดมองร่างสมส่วนราวกับกำลังประเมินราคาสินค้าสักอย่าง พอลดสายตาลงมองทรวงอกอวบอิ่มที่ดันเสื้อคอวีของแม่สาวหุ่นบอบบางตรงหน้าก็ทำทีเป็นถอนหายใจ... หัวเราะเสียงต่ำคล้ายกำลังดูถูก
“บอกตามตรงนะ สำหรับผมน่ะ... ถ้าต้องมีอะไรกับผู้หญิงหุ่นราวกับเด็กอายุสิบสามขวบแบบคุณ แค่ครั้งสองครั้งก็เต็มกลืนแล้วล่ะ”
ตรีชฎาอ้าปากค้างกับคำพูดแบบที่ไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากของเขา ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะตอบโต้ คำพูดที่เลวร้ายกว่านั้นก็ลอดออกมาจากปากสวยๆ ของเขาอีก
“ขึ้นเตียงสิ... เดี๋ยวผมจะสงเคราะห์ให้ดูว่าทำไมคนฝรั่งเศสถึงถูกโหวตให้เป็นชาติที่เซ็กซี่ที่สุด... จะได้ไม่เสียเที่ยวที่คุณอุตส่าห์ลงทุนบินมาถึงนี่ รับรองว่าคุณจะติดใจจนลืมไม่ลง” ริมฝีปากแม็คซ์กระตุกยิ้มเมื่อนึกถึงจดหมายที่อดีตคนรักส่งมาว่าสาวน้อยตรงหน้าจะมาเรียนภาษาฝรั่งเศสที่ปารีสหกเดือน และฝากให้เขาดูแลหรืออย่างน้อยก็พาเที่ยวบ้าง แม่นี่ก็ใจกล้าบ้าบิ่นเหลือเกิน
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
หลังจากโยนแหวนหมั้นที่เคยซื้อให้อิสริยาภรณ์ทิ้งลงแม่น้ำแซน แม็คซ์ไม่เคยมองผู้หญิงมากไปกว่าคู่นอน และไม่เคยคิดว่าหัวใจที่บอบช้ำจะสามารถเปิดรับใครได้ง่ายๆ อีก แต่โชคชะตาก็เล่นตลกกับเขาเสียเหลือเกิน เมื่อจู่ๆ ได้รับข้อความจากอดีตคู่หมั้นให้ช่วยไปรับและเทกแคร์น้องสาวของสามีระหว่างที่หล่อนอยู่ปารีส เขาไม่อยากจะเฉียดเข้าไปใกล้น้องสาวของศัตรูหัวใจเลยแม้แต่นิด แต่ก็ปฏิเสธคำขอของอดีตสาวคนรักไม่ได้
สำหรับตรีชฎาแล้ว เวลาหกเดือนที่จะอยู่ปารีส หมายถึงเวลาหกเดือนที่จะได้อยู่ใกล้ชิดและพิชิตใจหนุ่มที่แอบหลงใหลใฝ่ฝันมานาน แต่ท่าทางงานนี้จะงานหิน เพราะเจอหน้ากันทีไร เขาก็เอาแต่ตีหน้ายักษ์ใส่ทุกครั้ง
ใต้เงาใจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น